วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

ข่าว

อาซาร์แรง! สิงห์เปิดบ้านเชือดหงส์ 2-1

"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลทำใจยอมรับชะตากรรมเจอ 2 ทีมใหญ่พ่ายรวดล่าสุดนำเชลซีเร็วตั้งแต่นาทีที่ 4 สุดท้ายโดนยิงแซงแพ้ 2-1 จากจ่าฝูงเมื่อสัปดาห์ก่อนร่วงไปอยู่ที่ 5 ส่วน"สิงห์ไฮโซ"อยู่ที่ 3 ตามจ่าฝูงเหลือ 2 แต้มเท่านั้น

พรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2556


เชลซี 2-1 ลิเวอร์พูล

ประตู : 0-1 สเคอร์เทล น.4,1-1 อาซาร์ น.17,2-1 เอโต้ น.34


ศึกบิ๊กแมทช์ประจำสัปดาห์ทางโจเซ่ มูรินโญ่โรเตชั่นตามที่วางแผนเอาไว้โดยส่งเซซาร์ อัซปิลิกวยต้ากลับมาเป้นตัวจริงแทนแอชลีย์ โคลแต่ไม่มีรามิเรสที่ติดโทษแบน

ด้าน"หงส์แดง"ปรับตำแหน่งเดียวโดยดาเนี่ยล แอกเกอร์ที่ถูกส่งมาเล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายแทนอาลี ซิสโซโก้พร้อมรับปลอกแขนกัปตันทีมมาจากหลุยส์ ซัวเรซอีกด้วย

ครึ่งแรก
เฮ้ย!!หงส์นำไว 1-0
เอ้ามาม่ายังไม่ทันอืดแค่นาทีที่ 4 "หงส์แดง"ทำช็อกหลังขึ้นนำเชลซี 1-0 จากฟรีคิกไกลของคูตินโญ่แล้วซัวเรซขึ้นเทคไปโดนอิวาโนวิชจนบอลแน่นิ่งอยู่หน้าประตูระยะกำลังกินกำลังนอน 2 หลาก่อนสเคอร์เทลมาเขี่ยยิงอย่างง่ายดาย 

มิโญเลต์บินปัดสุดติ่ง
พอโดนนำเร็วแข้งเชลซีเหมือนถูกน้ำร้อนลวกทำเกมรุกวิ่งกันพล่านและนาที 12 เชลซีน่าได้ประตูตีเสมออย่างที่สุดหลังแลมพาร์ดวิ่งมากดเต็มตีนเตี่ยจากระยะ 25 หลาบอลพุ่งกำลังจะเสียบสามเหลี่ยมแต่มิโญเลต์บินปัดปลายมือบอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว เซฟเหลือเชื่อจริงๆ!
chelsea pics
อาซาร์มาแว้ววว 1-1!!
แต่แล้วทีมเยือนที่เนือยๆลงไปมาโดนตีเสมอในนาที 17 จนได้หลังการเคาะบอลจากตรงกลางสนามเป็นออสการ์หลุดขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วพยายามไหลเข้าเขตโทษให้เอโต้แต่ซาโก้อ่านทางดักไว้ได้แต่กลายเป็นเข้าทางอาซาร์ที่วิ่งมาแปปั่นไซด์บอลโค้งหนีมือมิโญเลต์เสียบเสาเข้าไปสุดงาม 1-1 แล้ว

หงส์ชักรวน
เล่นมา 20 นาทีตอนนี้ซัวเรซยังแทบไม่เจอบอลเพราะเจอทั้งเทอร์รี่และเคฮิลล์ตามประกบคู่เรียกว่าเพื่อนหงส์มองหาจ่ายมาโดนตัดตลอดทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลง่อยรับประทานและถูกเชลซีขึงเกมต่อบอลใส่หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ

หงส์เกือบเฮ
อีก 5 นาทีต่อมาทีมเยือนต่อบอลทำชิ่งก่อนซัวเรซเคาะเร็วให้อัลเลนหลุดเข้าถึงเขตโทษระยะเผาขน 6 หลาแต่ตอนยิงอย่างช้าเลยถูกเคฮิลล์สไลด์เตะทิ้งออกหลังไปเฉย

นาที 30 เชลซีชักไม่ดีหลังอิวาโนวิชเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องส่งโคลมาเล่นแบ็คซ้ายแล้วโยกอัสปิ

เชลซีมาดุเอโต้กดแซง 2-1!
อีก 4 นาทีเกมรับ"หงส์แดง"ยุ่ยอีกแล้วหลังออสการ์ที่ได้บอลในเขตโทษแล้วพยายามตบเข้าในตามน้ำแต่แฉลบซาโก้แล้วกลายเป็นดีกระเด้งกระดอนไปเข้าทางออสการ์อีกทีคราวนี้ล้มตัวปาดเลียดให้เอโต้วิ่งมาแปเข้าฮอร์ตระยะ 6 หลาบอลเบาก๋องแต่มิโญเลต์ล้มตัวปัดยังไงไม่รู้บอลค่อยปลิ้นกลิ้งชนเสาเข้าไปหน้าตาเฉย เชลซีพลิกแซงนำ 2-1

อัลเลนซัดเต็มๆชวดตีเสมอ
ก่อนหมดเวลา 3 นาที"หงส์แดง"ที่เกมเป็นรองอย่างหนักเกือบตีเสมอได้หลังสเตอร์ลิ่งได้บอลทางปีกขวาแล้วปาดเลียดกะให้ซัวเรซพี่ใหญ่แต่ติดขาเทอร์รี่และกลายเป็นหยุดให้อัลเลนที่วิ่งมากดเต็มๆในเขตโทษแต่เช็กล้มตัวปัดเหลือเชื่อ

ช่วงท้ายเกมเชลซีเหมือนจะไม่ลดราวาศอกแต่นักเตะทีมเยือนยังช่วยรุมไล่และได้ครองเกมบ้างตอนทดเจ็บสุดท้ายทำอะไรไม่ได้หมด 45 นาที + 3 ทดเจ็บจบลงด้วยสกอร์เจ้าถิ่นแซงนำ 2-1

ครึ่งหลัง
สั่งสอนอบรมพักให้เหงื่อแห้ง 15 นาทีมีรายงานว่าแลมพาร์ดเจ็บต้นขาเล่นต่อไม่ไหวต้องให้จอห์น โอบี มิเกลลงมาแทน

ซาโก้โขกเหน่งๆชนคาน!
เล่นมา 7 นาทีลิเวอร์พูลพลาดโอกาสตีเสมออย่างไม่น่าเชื่อหลังฟรีคิกเร็วเป็นเฮนเดอร์สันหยอดบอลน้ำหนักสุดเนียนให้ซาโก้ที่เติมขึ้นมาขวิดในเขตโทษบอลค่อยๆย้อยกำลังจะเข้าใต้สามเหลี่ยมแต่ไปชนคานดังสนั่นกันเลยทีเดียว
chelsea pics
เอโต้หลุดเดี่ยวไม่เข้า!!
อีกไม่กี่นาทีทีมเยือนทำเสียบอลในแดนตัวเองจนเอโต้ได้บอลหลุดเดี่ยวไม่ล้ำหน้าแล้วลากไปล่อเป้ามิโญเลต์แต่อดีตหอกอินเตอร์ มิลานตะบันยิงยัดไปติดบล็อกจอมหนึบทีมชาติเบลเยียมที่ปิดเสาแรกเอาไว้สุดยอด เสียเตะมุม

เหยินยิงเหนือแต่บอลลงใต้
เกมแลกกันมันแล้วนาที 58 โอกาสส่องหนแรกของซัวเรซในเกมนี้มาจากการเก็บตกบอลหน้าเขตโทษของคูตินโญ่ก่อนแยงออกมาทางริมเขตโทษฝั่งซ้ายให้เฮนโด้ตวัดเปดิย้อยมาให้"หม่อมเหยิน"ง้างตีนวอลเลย์ตามน้ำบนเส้นเขตโทษพอดีแต่ไปตรงตัวเช็กที่ล้มตัวเซฟบนเส้นพอดี

สมิธเปิดซิงลงนัดแรก
ลิเวอร์พูลมีปัญหาแล้วหลังอัลเลนเจ็บแล้วบีร็อดไม่มีทางเลือกต้องส่งแบร๊ด สมิธเจ้าหนูดาวรุ่งลงมาแทนในนาที 59

วันนี้ราฮีมเล่นดีมากเสียบอลน้อยและสร้างปัญหาให้แนวรับเชลซีได้ดีมากแต่พอทำดีแล้วส่งมาให้ GJ พี่ท่านทำเสียเพื่อนเหนื่อยฟรี กากแท้เหลา

ลูคัสเกือบทำพัง
นาที 70 ลูคัสเงอะงะหน้าประตูถูกออสการ์วิ่งมาบีบแย่งจนสุดท้ายได้ส่องไซด์หน้าเขตโทษบอลพุ่งเฉี่ยวเสาเกือบกลายเป็นประตูตอกฝาโลง

GJ สไตล์!!
อีก 4 นาทีต่อมาหลังซัวเรซพาทัวร์ลากจากปีกซ้ายมาเกือบๆปีกขวาโดยมีอิวาโนวิชตามแซะจนสะบัดมีอารมณ์กันไปแต่บอลมาเข้าทาง GJ ที่มาตามสไตล์ยิงไกลด้วยซ้ายแต่งวดนี้เกือบเข้าบอลเลียดเบียดเสาแต่เช็กยังไวล้มตัวปัดหวุดหวิด

เหยินโดนเสียบอ่วม
ยิ่งท้ายเกมเท่าไหร่ซัวเรซเหมือนเริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆและไม่ต้องสงสัยว่าจะมีผู้เล่นเชลซีเข้ามารุมมากมายถึง 3 คนและได้ฟาว์ลบ้างไม่ได้ฟาว์ลบ้างโดยเฉพาะนาที 83 ที่เอโต้ไปดักเข่าใส่หม่อมเหยินในเขตโทษยังดีฮาวเวิร์ด เวบบ์มองว่าเสียการครองบอลไปแล้วเลยไม่ได้ให้จุดโทษ

ตอร์เรสเกือบทำเดอะค็อปฮาไม่ออก
ก่อนหมดเวลานาทีเดียวเกือบมีประเด็นหลังตอร์เรสตัวสำรองกระชากหนีซาโก้จากปีกขวาเข้ามาในเขตโทษก่อนหนีสเคอร์เทลที่เข้าพรวดไปอีกคนแต่ตอนยิงเหน่งๆตรงระยะ 7 หลาเบาไปเลยถูกมิโญเลต์ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้

ทดเจ็บเชลซีเผาเวลาพยายามเล่นมุมธงบ้างเอาฟาว์ลบ้างสาดโด่งเอาซัก 3 วินาทีบ้างสุดท้าย"หงส์แดง"พยายามจะเร่งมือแต่ไม่ทันการแถมตอนใกล้หมดเวลาลูคัสมีเรื่องกับออสการ์รุ่นน้องร่วมชาติที่เข้าบอลเปิดปุ่มหนักเกินเหตุ ส่วนดาวิด ลุยซ์บราซิเลี่ยนอีกคนก็มาแจมด้วยจนเพื่อนต้องมาห้ามทัพ

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

เชลซี : 
ปีเตอร์ เช็ก,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช(โคล น.29),แกรี่ เคฮิลล์,จอห์น เทอร์รี่,เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า,ดาวิด ลุยส์,แฟร็งค์ แลมพาร์ด(มิเกล น.46),เอด็อง อาซาร์,ออสการ์,วิลเลี่ยน,ซามูเอล เอโต้


ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์,เกล็น จอห์นสัน,มาร์ติน สเคอร์เทล,มามาดู ซาโก้,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,ลูคัส เลว่า,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,โจ อัลเลน(สมิธ น.60),ราฮีม สเตอร์ลิ่ง,ฟิลิปเป้ คูตินโญ่,หลุยส์ ซัวเรซ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น